The Hills Group General แนะนำกระเป่า chanel

แนะนำกระเป่า chanel



chanel มือสอง

กระเป๋า Chanel ถือเป็นที่สุดแห่งกระเป๋าผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย ทั้งมีประวัติและชื่อเสียงที่ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความมีรสนิยม ผู้หญิงจึงอยากจะมีไว้ในครอบครองสักใบสองใบ เพราะ Chanel มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตแต่ละรุ่นที่จำกัด อายุการใช้งานที่นานคงทน รูปทรงไม่ล้าสมัย ทั้งยังสามารถขายต่อได้ในราคาที่ยังสูง วันนี้จะมาแนะนำกระเป๋า chanel รุ่นฮิตยอดนิยมกันเลย

  1. กระเป๋ารุ่น Classic ที่ออกแบบโดยคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์เมื่อครั้งที่เขาเพิ่งมาร่วมงานกับแบรนด์ชาเนลในปี ค.ศ. 1983 ถูกนำมาตีความใหม่ในสไตล์กระเป๋าถือ ที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมความโดดเด่นที่แปลกใหม่ด้วยการมี 2 สีในใบเดียวได้แก่ สีขาวและสีดำ ซึ่งคงรูปทรงเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยเฉพาะโลโก้ CC ที่สร้างความโดดเด่นให้กับกระเป๋ารุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ ใบละ 320,000 บาท
  2. กระเป๋า CHANEL รุ่น BOY เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ออกมาแล้วฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ใครๆก็หาเพื่อจะได้ครอบครอง โดยทรง BOY จะมีเอกลักษ์ที่สายองกระเป๋าเป็นแบบโลหะถักไขว้คล้ายโซ่ ทำให้แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ มาพร้อมดีเทลตัวล็อกกระเป๋าลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและลาย CC นูนขึ้นมา โดยมี 2 ขนาดคือ ไซส์มินิและไซส์ใหญ่ โดยมีให้เลือก 2 ลาย ได้แก่  Diamond Shaped และ Chevron ราคาประมาณ 200,000 บาท
  3. กระเป๋า CHANEL รุ่น FLAP BAG WITH TOP HANDLE

สไตล์สวยหรูคุณหนูดูแพง แต่ก็แพงจริงๆ ต้องรุ่นนี้เลย ที่ดีไซต์มีความเก๋ และเรียบหรูเป็นอย่างมาก กระเป๋ารุ่นนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ Trendy CC บริเวณที่จับของกระเป๋ารุ่นนี้จะเป็นที่จับแบบแบนเข้ากับรูปทรงของกระเป๋าได้เป็นอย่างดี มาพร้อมสายสะพายที่ช่วยให้คุณเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ แถมยังมีช่องที่สามารถใส่ของทั้งหมด 3 ช่องและช่องเก็บของด้านหลังของกระเป๋าอีก 1 ช่อง ราคาประมาณ 220,000 บาท

  1. กระเป๋า CHANEL รุ่น MINI FLAP BAG

ลุคแค่ออกไปซื้อหน้าปากซอยแบบไม่พกอะไรเยอะต้องรุ่นนี้ เป็นกระเป๋าไซซ์มินิมาพร้อมกับดีเทลที่แสดงถึงความเป็นแบรนด์ CHANEL ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยตัวล็อกโลโก้ CC สายสีทองที่ร้อยด้วยหนัง รวมไปถึงผ้าทวีดและหนังลูกวัวลายเปียผสมความคลาสสิกและทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ราคาประมาณ 160,000 บาท

ต้องยอมรับว่า Chanel เป็นแบรนด์ที่ทำกระเป๋าออกมาได้ดึงดูดใจสาวๆ เป็นอย่างมาก รุ่นหนึ่งมีจำกัดสาวๆก็มักจะตามหากันให้ทั่วทั้งแผ่นดินเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าไม่ทัน ต้องรอมีคนเอามาปล่อยเป็นกระเป๋า Chanel มือสอง ซึ่งในการจะเลือกซื้อกระเป๋า Chanel มือสองของแท้นั้น คุณต้องเลือกให้ดีไม่งั้นก็จะโดยร้านค้าหัวหมอต้มจนเปื่อย เสียทั้งเงินแถมยังไม่ได้ของแท้มาอีก 

Related Post

ประกันภัย 2+

เปรียบเทียบประกันภัย 2+เปรียบเทียบประกันภัย 2+



ประกันภัยรถยนต์มีให้เลือกอยู่หลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองสูง ครอบคลุมได้หลากหลายแทบทุกกรณีหรือประกันภัยชั้น 3 ที่มีข้อเด่นคือค่าเบี้ยประกันที่ถูก ภาระเบารองรับง่ายและคุ้มค่า แต่ประกันที่หลายคนอาจสับสนเพราะความใกล้เคียงกันแต่มีความน่าสนใจคือประกันภัย 2+ สำหรับใครที่สนใจในประกันภัย 2+ อาจเริ่มจากการลองเปรียบเทียบประกันภัย 2+ กับประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น 1  ประกันภัย 2+ คือประกันภัยที่ครอบคลุมตั้งแต่กรณีเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีหรือสามารถระบุคู่กรณีได้ ช่วยชดเชยความเสียหายทั้งของคู่กรณีและของผู้เอาประกัน รวมไปถึงการให้ความคุ้มครองในส่วนของภัยพิบัติ ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือกรณีอย่างรถยนต์สูญหาย แต่ข้อสำคัญคือไม่คุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีหรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ประกันภัย 2+ มีค่าเบี้ยประกันที่ลดลงจากประกันภัยชั้น 1 ที่คุ้มครองอย่างครอบคลุม โดยที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของความคุ้มครองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือประกันชั้น 2+ ไม่ครอบคลุมกรณีที่ไม่สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ หลายคนที่สนใจความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว้างขวางจึงเลือกให้ประกันชั้น 2+ เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เป็นที่นิยม เพราะลดค่าเบี้ยประกันลงจากประกันภัยชั้น 1 ทำให้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายลงแต่ได้ความคุ้มครองมากเกือบเทียบเท่ากัน   ส่วนประกันภัยชั้น 2 คือประกันภัยที่ครอบคลุมเน้นไปที่คู่กรณีเป็นหลัก จะชดเชยความเสียหายของคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังช่วยคุ้มครองการเกิดไฟไหม้ น้ำท่วมและภัยพิบัติอื่นๆ ไปจนถึงรถยนต์สูญหายก็อยู่ในความคุ้มครองของประกันภัยชั้น 2 ด้วย โดยความแตกต่างของประกันภัย 2+ และประกันภัยชั้น 2 คือการที่ประกันภัยชั้น 2 ไม่ครอบคลุมไปถึงความเสียหายของผู้เอาประกัน  ดังนั้น ประกันภัย 2+ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมใกล้เคียงกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ในค่าเบี้ยประกันที่น้อยกว่า เพราะต่างกันเพียงแค่ต้องมีคู่กรณีในอุบัติเหตุเท่านั้น อาจเรียกได้ว่าคุ้มค่ากับบางความต้องการมากกว่าการจ่ายเบี้ยประกันสูงของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่หากคุณมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี ไม่ค่อยเกิดการเฉี่ยวชนหรือไม่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แต่ต้องการความคุ้มครองจากภัยพิบัติแล้ว ประกันภัยชั้น 2 อาจคุ้มค่ามากกว่าประกันภัย 2+ นั่นเอง อยู่ที่ความต้องการเน้นความคุ้มครองและระดับค่าเบี้ยประกันที่จะคุ้มค่ากับความเสี่ยงและการใช้งานรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป